เวลาทำการ

จันทร์-เสาร์

09-00-20.00 น.

เราช่วยคุณได้

@truefriendstrip

Travel License : 11/11316

หน้าแรก

/

ข้อมูลท่องเที่ยว

จอร์เจีย ดินแดนแห่งหุบเขา

จอร์เจีย ดินแดนแห่งหุบเขา

403

           จอร์เจีย ดินแดนแห่งหุบเขาเป็นประเทศที่อยู่ทางตะวันออกของทะเลดำในคอเคซัสตอนใต้ อดีตเป็นรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต ทางเหนือติดประเทศรัสเซีย ทางใต้ติดประเทศตุรกี ประเทศอาร์มีเนีย และประเทศอาเซอร์ไบจานเป็นประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ครั้งหนึ่งจอร์เจียเคยเป็นหนึ่งในสหพันธรัฐรัสเซียมาก่อน ซึ่งประเทศจอร์เจียมีประวัติศาสตร์ที่ถูกปกครองโดยหลายชาติพันธ์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เปอร์เซีย มองโกเลีย เอเชียกลาง และรัสเซีย จนกระทั่งได้เป็นประเทศจอร์เจียอย่างในปัจจบัน ด้วยประวัติศาสตร์ของจอร์เจียที่ผ่านการปกครองมาหลายชาติหลายวัฒนธรรม ผู้คนจอร์เจียมีผิวขาวแบบยุโรป จมูกโด่งมากเหมือนเปอร์เซีย ตวงตากลมโต มองแล้วกึ่งยุโรปกึ่งแขก ในมื้ออาหารจะมีเนื้อสัตว์หลากชนิดและผักเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแทบทุกมื้ออาหารจะมีแป้งเป็นจานหลัก           ชาวจอร์เจีย มีวิถีความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ดังนี้                      จอร์เจียมีวิถีการกินดื่มที่ผสมผสาน อาหารมีเนื้อสัตว์และผักสลัดแบบยุโรปในขณะเดียวกันก็เน้นการกินแป้งแบบชาวเอเชียกลาง ในจอร์เจียมีร้านอาหารจำนวนมากและมีชื่อเสียงโด่งดังคือไวน์และน้ำแร่           สถานที่ท่องเที่ยว ไฮไลท์ประเทศจอร์เจีย (คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า)             1. เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) เทือกเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทวีปยุโรป และเอเชีย ประกอบด้วย 2 ส่วน คือเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ และเทือกเขาคอเคซัสน้อย             2. โบสถ์สมินดา ซาเมบา Tsminda Sameba หรือ โบสถ์เกอเกติ (GERGETI TRINITY CHURCH)  โบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัสซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจียโบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์เก่าแก่นี้สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 บนยอดเขาที่มีความสูงถึง 2,170 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติของเทือกเขาคอเคซัสรอบทิศและโบสถ์เล็กๆที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาจึงทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่สมัยที่จอร์เจียยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตซึ่งตั้งอยู่อย่างสวยงามและโดดเด่นบนเนินเขาซึ่งล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีที่ระดับความสูง 2,170 เมตร             3. อุพลิสชิเค่ (ULISTSIKHECAVE – TOEN) ถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจียมีการตั้งถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กันมานานแล้วกว่า 3000 ปีก่อนในอดีตช่วงยุคโบราณก่อนยุคกลาง (Hellenistic and Late Antique periods) ช่วง500 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ.500 เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมและช่วงที่เมืองนี้มีความเจริญสุดขีดคือ ในช่วงคริสตวรรษที่ 9 ถึง 11 ก่อนจะถูกรุกรานโดยชาวมองโกลในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และถูกปล่อยให้เป็นเมืองร้างไปจะได้พบกับศาสนสถานที่มีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ชาวเพเก้น (Pagan) ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมซึ่งเป็นลัทธิบูชาไฟ เป็นลัทธิของคนในแถบนี้ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเข้าเมื่อ 1700 ปีก่อน และยังมีห้องต่างๆ ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9             4. อารามหลวงจีลาติ (GELATI CATHEDRAL) ถูกค้นพบในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ซึ่งทางองค์กรยูเนสโกได้ประกาศให้อารามจีลาติเป็นมรดกโลกเมื่อ ปี ค.ศ.1994 ภายในบริเวณอารามแบ่งเป็นสองส่วนคือโบสถ์เซนต์ นิโคลาส (St. Nicholas) และโบสถ์เซนต์ จอร์จ (St.George) ในโบสถ์เซนต์นิโคลัสนั้น มีภาพเขียนสีเฟรสโกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนาหลายภาพ และยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์และที่สำคัญตรงบริเวณโดมขนาดใหญ่ของโบสถ์ซึ่งเป็นภาพพระแม่มารีนั้นใช้กระเบื้องโมเสกสีทองประดับประดากว่า 2 ล้านชิ้นที่สวยงามตระการตามาก             5. สะพานแห่งสันติภาพ (THE BRIDGE OF PEACE) สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในเมือง Tbilisi ออกแบบโดย Michele De Lucchi สถาปัคนิกชาวอิตาเลื่ยน ก่อนพระอาทิตย์ตกจะมีการแสดงแสงสีจากไฟ LED ที่ติดตัวรอบตัวสะพานเป็นเวลา 90 นาที สามารถมองเห็นได้หลายมุมจากในเมือง             6. วิหารศักดิ์สิทธิ์ (HOLY TRINITY CATHEDRAL) ที่เรียกกันว่า HOLY SAMEBA เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์โธดอกจอร์เจียตั้งอยู่ในทบิลิซีเมืองหลวงของจอร์เจีย สร้างขึ้นระหว่างปี 1995 และปี 2004 และเป็นวิหารที่สูงที่สุดอันดับที่ 3 ของโบสถ์ออร์โธดอกในโลก ของฝากของที่ระลึกประเทศจอร์เจียไวน์ และผลไม้ต่างๆ เช่น เชอร์รี่, พีช, องุ่น และเบอร์รี่ต่างๆ

ตุรกีดินแดนในฝันของใครหลายคนประเทศนี้มีสองทวีป เอเชีย-ยุโรป

ตุรกีดินแดนในฝันของใครหลายคนประเทศนี้มีสองทวีป เอเชีย-ยุโรป

290

ตุรกีดินแดนในฝันของใครหลายคนประเทศนี้มีสองทวีป เอเชีย-ยุโรป ฝั่งเอเชียพื้นที่ส่วนใหญ่ครอบคลุมคาบสมุทรอานาโตเลียตุรกีฝั่งยุโรปตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่าน ประเทศตุรกีมีความงดงามทางธรรมชาติมากมาย อาทิเช่น ภูเขา ทะเล น้ำตก ต้นไม้ และมีสถาปัตยะกรรม  ศิลปะวัฒนะธรรม ที่ชวนหลงใหลและลงตัว อีกทั้งผู้คนน่ารักยิ้มแย้มแจ่มใส ให้ความเป็นมิตร  คนไทยไปตุรกีไม่ต้องขอวีซ่า และอยู่ท่องเที่ยวได้นาน 30  วัน  Truefriendstrip  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคัดสรรและแนะนำโปรแกรมท่องเที่ยวให้กับลูกค้า เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญเส้นทางตุรกี  โปรแกรมทัวร์ตุรกีมีหลากหลายโปรแกรมโดยทั่วไปแตกต่างกันนิดหน่อย  เช่นแตกต่างกันที่สายการบินที่ใช้บินระหว่างประเทศ  Turkish airline เป็นหนึ่งในสายการบินยอดนิยมเพราะบินตรงสู่ประเทศตุรกี  ทำให้ไม่เสียเวลาต่อเครื่อง  ต่อไปแอตมินอยากนำเสนอที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด อิสตันบลู เป็นเมืองใหญ่และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยสดงดงามสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก  วิหารเซนต์โซเฟีย  อีก 1 แลนด์มาร์คที่สำคัญที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไบแชนไทน์  สุเหล่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)  เป็นหนึ่ง ในสัญญาลักษณ์ของเมืองอิสตันบลู  พระราชวังโดลมาบาชเช่ สร้างด้วยหินอ่อนสวยงามแบบตะวันตกผสมผสานตะวันออก  เมืองต่อไปปามุกกาเล อยู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี  ปามุกกาเล เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวมองลงไปเป็นชั้นๆเป็นเนินเขาสวยงาม  และอีกหนึ่งเมืองสำคัญ คัปปาโดเกีย ถ้าไม่ไปถือว่าไปไม่ถึงตุรกี เมืองคัปปาโดเกีย ไฮไลท์คือขึ้นบอลลูนเก็บภาพจากมุมสูง มองลองมาเห็นวิวสวยงามมากราวกับเหมือนเทพนิยาย  ที่แอตมินเขียนบรรยายไปนั้นยังไม่ครบทุกสถานที่ยังมีที่เที่ยวที่สวยงามที่ยังไม่ได้กล่าวอีก แอตมินอยากให้ลูกค้ามาเห็นด้วยตาตัวเองและได้มาท่องเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิตทีมงาน  Truefriendstrip  ยินดีให้บริการโปรแกรมทัวร์เส้นทางตุรกี ตั่วเตรื่องบิน ที่พัก และการวางแผนการเที่ยวตุรกีลูกค้าสามารถติดต่อได้ทุกช่วงทางการติดต่อ (อยู่ด้านล่างเว็ปไซด์) ตลอด 24  ชั่วโมง  Hotline สายด่วน  091-8859728

แคชเมียร์ ดินแดนทางตอนเหนือของอินเดีย

แคชเมียร์ ดินแดนทางตอนเหนือของอินเดีย

345

แคชเมียร์ ดินแดนทางตอนเหนือของอินเดีย แคชเมียร์เปรียบเหมือนสวรรค์บนดิน เป็นโลกมหัศจรรย์ของคนรักธรรมชาติ จนได้รับการกล่าวขานให้เป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย" แคชเมียร์เป็นมากกว่าเมืองท่องเที่ยวธรรมดาๆ แต่แคชเมียร์เป็นดินแดนแห่งการผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมและชนชาติกับทัศนียภาพที่สวยงาม ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนปรารถนาอยากไปเยือนมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากบ้านเราแคชเมียร์ รัฐที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศปากีสถานและที่ราบสูงทิเบต เป็นดินแดนกลางเทือกเขาหิมาลัยที่มีธรรมชาติสวยงาม และเป็นหนึ่งในรัฐที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศมากที่สุดในประเทศอินเดีย ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่มีทั้งแบบเทือกเขา พื้นที่ราบบนภูเขา ภูเขาหิมะ ทะเลสาบ และทุ่งหญ้า จากความหลากหลายทางภูมิประเทศที่มีลักษณะคล้ายประเทศฝั่งยุโรปและภูมิอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ทำให้แคชเมียร์เป็นอีกรัฐหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย” ทรูเฟรนทริป เชื่อว่าหลายท่านอาจจะมีภาพจำของประเทศอินเดียว่าเป็นเมืองที่มีอากาศร้อนและมีสภาพความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างวุ่นวาย ซึ่งเราขอบอกไว้ตรงนี้ว่าให้ลบภาพนั้นไปได้เลย เพราะเราจะพาทุกท่านเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวอินเดียแบบใหม่ที่ทุกคนต้องประทับใจอย่างแน่นอนก่อนอื่นขอแนะนำฤดูกาลต่างๆ เพื่อเป็นการเริ่มวางแผนเที่ยวก่อนเลยนะคะแคชเมียร์  มีฤดูกาลหลักๆ อยู่ 4 ฤดูคือ          - ฤดูใบไม้ผลิ  ระหว่างเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม          - ฤดูร้อน        ระหว่างเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม          - ฤดูใบไม้ร่วง   ระหว่างเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน          - ฤดูหนาว       ระหว่างเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์แต่ละฤดูกาลของแคชเมียร์ก็มีความสวยงามที่น่าดึงดูดต่างกันนะคะ ขอบรรยายเพิ่มเติมอีกนิดให้ทุกท่านได้เห็นภาพชัดขึ้น เผลอๆจะอยากไปให้ครบทุกฤดูกาลแบบแอดมินก็ได้นะคะ1. ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เป็นช่วงเวลาแห่งทุ่งหญ้าและทุ่งดอกไม้ในแคชเมียร์ และเป็นฤดูที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมความสวยงามของเหล่าดอกไม้หลากสีสันและทุ่งหญ้าเขียวขจีที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาหิมาลัยได้มากที่สุดในเดือนเมษายนของทุกปีตัวเมืองศรีนาการ์จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลดอกทิวลิปอินทิรา คานธี (The Indira Gandhi Memorial Tulip Garden) เทศกาลดอกทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียขึ้นบริเวณสวนโมกุล (Moghal Gardens หรือ Nishat Bagh) โดยมีฉากหลังเป็นทะเลสาบดาล ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองศรีนาการ์ สวนโมกุลแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักในศรีนาการ์ ตัวสวนตั้งอยู่ทางริมฝั่งตะวันออกของทะเลสาบดาล ออกแบบตกแต่งสวนในสไตล์โมกุลผสมผสานกับเปอร์เซีย เป็นสวนแบบระเบียง 12 ชั้น แสดงสัญลักษณ์ของราศีต่างๆ ประดับด้วยน้ำพุและอาคารทรงแปดเหลี่ยมอยู่ทั่วบริเวณ ดูสวยงามและร่มรื่นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะพลาดไม่ได้ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนก็คือ พาฮาลแกม (Pahalgam) เมืองทางทิศตะวันออกของศรีนาการ์ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 95 กิโลเมตร  พาฮาลแกมหรือหุบเขาแกะเป็นหุบเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,130 เมตร มีภูมิประเทศเป็นทุ่งหญ้า ป่าสน และทุ่งดอกไม้ที่มีฉากหลังเป็นเทือกเขาหิมาลัยอันปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นฉากช่วงวิ่งอ้อมเขาบอกรักกันในหนังอินเดียอยู่หลายเรื่อง รวมถึงเป็นสถานที่ปิกนิกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย นอกจากทุ่งหญ้าและป่าสนแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่ศรีนาการ์ก็จะมีทุ่งดอกมัสตาร์ดสีเหลืองสดใสอีกด้วย2. ฤดูใบไม้ร่วง จุดเด่นที่แคชเมียร์ก็อยู่ที่เมืองหลวงศรีนาการ์อีกเหมือนกัน ศรีนาการ์เป็นที่ตั้งของสวนสวยอยู่หลายแห่ง นอกจากสวนโมกุลที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วก็ยังมีสวนสไตล์โมกุลอีกหลายที่ เช่น สวนพฤกษศาสตร์ศรีนาการ์ (Srinagar Botanical Garden) สวนชาลิมา บาห์ (Shalimar Bagh) และสวนจัสม่า ชาฮี (Chashma Shahi Garden) ซึ่งเหล่าต้นไม้ใบไม้ในสวนต่างๆ นี้ก็จะพากันผลัดใบ โดยเฉพาะต้นซีน่า ต้นไม้หลักในสวนสไตล์โมกุลที่มีลักษณะคล้ายต้นเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเฉดสีเป็นสีเหลือง น้ำตาลอ่อน และแดง ดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในช่วงอากาศเย็นๆ ของฤดูใบไม้ร่วงก็คือล่องเรือชิคารา (Shikara) หรือเรือแท็กซี่ชมความสวยงามและวิถีชีวิตของผู้คนริมทะเลสาบดาล เรือชิคาราเป็นเรือไม้สไตล์แคชเมียร์ ตกแต่งด้วยสีสันสวยงาม มีหลังคาสีสวยบังแดด และมีพรมหนานุ่มปูลาดเป็นเบาะ ล่องเรือชิคาราในทะเลสาบดาลรับรองว่าโรแมนติกสุดๆไปเลยค่ะแคชเมียร์ในฤดูใบไม้ร่วงไม่ได้น่าสนใจแค่เมืองศรีนาการ์นะคะ อีกเมืองที่ไม่ควรพลาดคือ โซนามาร์ค (Sonamarg) เมืองที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองศรีนาการ์ไปประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ที่นี่มีฉายาว่า "เมืองทุ่งหญ้าแห่งทองคำ" แม้จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงแต่ก็ยังคงมีภูมิประเทศเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจีและทุ่งดอกมัสตาร์ดเลาะเลียบแม่น้ำสินธุ โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาหิมะ โซนามาร์คก็ยังมีกราเซียร์หรือธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตามไหล่เขา ที่จะยังมีให้เห็นในช่วงฤดูนี้อีกด้วยค่ะ ขอบอกเลยว่า ที่นี่มีธรรมชาติสวยงามแบบพลาดไม่ได้เลยเชียวค่ะ  3. ฤดูหนาว ไฮไลท์ของฤดูนี้ต้องที่นี่เลยค่ะ เมืองกุลมาร์ค (Gulmarg) ภูเขาหิมะที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองศรีนาการ์ไปประมาณ 58 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น กุลมาร์คเป็นอีกหนึ่งสุดยอดสกีรีสอร์ทในทวีปเอเชียที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น Winter Sports of India จากสำนักข่าว CNN นอกจากนี้ยังเป็นลานสกีที่ได้ชื่อว่าถูกที่สุดในโลกอีกด้วย การมาเที่ยวกุลมาร์คจะต้องนั่งกระเช้ากอนโดลาขึ้นสู่ลานสกีบนยอดเขา ทิวทัศน์มุมสูงแบบพาโนรามาของเทือกเขาหิมาลัยที่เห็นจากยอดเขาแห่งนี้ บอกเลยว่า แอลป์ ในยุโรปยังไง ที่นี่ไม่แพ้อย่างแน่นอนค่ะ กระเช้ากอนโดลาของกุลมาร์คเป็นกระเช้าลอยฟ้าที่มีความสูงที่ 3,979 เมตรจากระดับน้ำทะเล เราสามารถพิชิตภูเขาหิมะกุลมาร์คกันได้ด้วยการนั่งกระเช้ากอนโดลาขึ้นไป เห็นไหมค่ะเที่ยวแคชเมียร์ เพียงรัฐเดียวของอินเดียก็พาเราได้ชื่นชมหลากหลายบรรยากาศ ธรรมชาติที่มีมาให้เลือกเที่ยวกันทั้งปี อยู่ที่นักเดินทางจะเลือกแล้วละค่ะ แต่อินเดียยังมีอีกหลายเมืองที่น่าไปเยือนนะคะ ครั้งหน้าแอดมินจะพาไปรู้จักอินเดียเมืองอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้แคชเมียร์แน่นอนค่ะ

เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ ที่ฮอกไกโด ขาเที่ยวญี่ปุ่น ห้ามพลาด

เที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ ที่ฮอกไกโด ขาเที่ยวญี่ปุ่น ห้ามพลาด

455

ถ้าถามว่าที่ฮอกไกโดมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง นอกจากหิมะและใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ขอแนะนำช่วงหน้าร้อนแสนสดใสกับการไปชม ทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโด ทุ่งดอกไม้สีม่วงบานสะพรั่ง เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการมา เที่ยวญี่ปุ่น หน้าร้อน ที่ใครหลายคนอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง โดยปกติแล้ว ลาเวนเดอร์ ญี่ปุ่น จะเริ่มบานตั้งแต่ช่วง กลางเดือนกรกฎาคม – กลางเดือนสิงหาคมของทุกปี และเป็นช่วงเวลาเดียวของปีเท่านั้นที่เราจะได้ชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งสวนแบบเต็มๆ ตา ส่วนที่ฮอกไกโดจะมีทุ่งลาเวนเดอร์ที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง ตามมาดูกันเลย!

5 ลานสกีสุดเจ๋งในฮอกไกโด อยากเล่นสกีมันส์ๆ ในฤดูหนาวของญี่ปุ่น หิมะนุ่ม เซลฟี่ ฟินสุด

5 ลานสกีสุดเจ๋งในฮอกไกโด อยากเล่นสกีมันส์ๆ ในฤดูหนาวของญี่ปุ่น หิมะนุ่ม เซลฟี่ ฟินสุด

286

เล่นสกีฮอกไกโด หิมะผงของฮอกไกโดได้รับการยกย่องจากนักเล่นสกีและนักสโนว์บอร์ดทั่วโลกว่าเป็นหิมะคุณภาพดีที่สุดในโลก มีสกีรีสอร์ทชื่อดังมากมายในฮอกไกโด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Rusutsu และ Niseko มีชื่อเสียงมากในเรื่องผงหิมะและสิ่งอำนวยความสะดวก โรงแรม / ที่พักการขนส่งและน้ำพุร้อน (ออนเซ็น) มีให้บริการอย่างดี รีสอร์ทต่อไปนี้มีพนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ (บางแห่งสามารถพูดภาษาจีนและเกาหลีได้) นี่คือการแนะนำรีสอร์ทสกีที่ดีที่สุด 5 แห่งในฮอกไกโดสำหรับฤดูกาลล่าสุดปี 2561-2562